“เติมลมรถเก๋ง” อย่างไร จึงปลอดภัยในการขับขี่
การเติมลมยางนั้นเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ใช้รถต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เนื่องจากมีผลโดยตรงในเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งรถแต่ละประเภทนั้นก็มีวิธีการเติมลมยางที่แตกต่างกันไป วันนี้ ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท จะมาสรุปความรู้เกี่ยวกับการเติมลมยาง ทั้งการเติมลมรถเก๋ง ขนาดเล็กและขนาดใหญ่ สำหรับมือใหม่หัดเติมลมยางกันครับ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเติมลมยางแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
สำหรับคนที่ไม่เคยเติมลมยางรถยนต์ด้วยตนเอง อาจจะกำลังเกิดข้อสงสัยว่าในการเติมลมยางแต่ละครั้งนั้นจะต้องเติมเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม และช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น
ซึ่งการเติมลมยางให้เหมาะสมนั้น จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 3 ข้อคือ ประเภทของรถที่ขับ ความเร็วที่ใช้ในการขับขี่ และน้ำหนักที่บรรทุก เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อการเบรค การทรงตัวของรถการควบคุมรถ รวมถึงอัตราการกินน้ำมัน และถ้าหากคุณบรรทุกคนหรือของมากขึ้น ก็อาจจะต้องมีการเพิ่มแรงดันลมยางเพื่อชดเชยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นด้วย
เติมยางรถเก๋งให้ถูกวิธีและปลอดภัยในการขับขี่
สิ่งสำคัญในการเติมลมยางรถยนต์ ให้ถูกวิธีและปลอดภัยในการขับขี่นั้นผู้ใช้งานควรเติมลมยางตามแรงดันที่แนะนำของรถแต่ละประเภท ซึ่งผู้ขับขี่สามารถดูปริมาณแรงดันลมยางที่เหมาะสมได้จากสติกเกอร์แสดงแรงดันลมที่เหมาะสมที่แปะไว้บริเวณข้างประตูฝั่งคนขับ
ซึ่งหน่วยแรงดันลมที่กำหนดไว้ในประเทศไทยนั้นมีหน่วยมาตรฐานเป็นปอนด์ต่อตารางนิ้ว โดยเราจะเรียกว่า Pound per Square inches หรือเรียกย่อๆ ว่า PSI ซึ่งเป็นหน่วยของเครื่องปั๊มลมที่เราใช้กันทั่วไปในประเทศ
สำหรับการเติมลมรถเก๋งให้เหมาะสมนั้น ควรเติมลมยางให้เหมาะกับรถแต่ละประเภท ได้แก่
- รถยนต์ขนาดเล็ก ควรเติมลมยางประมาณ 25-30 PSI
- รถยนต์ขนาดกลาง ควรเติมลมยางประมาณ 30-35 PSI
แต่ในกรณีที่จำเป็นต้องขับรถในระยะทางไกล ผู้ใช้งานควรเพิ่มลมยางเพิ่มอีก ข้างละประมาณ 3-5 PSI เพื่อเพิ่มความปลอดภัยตลอดระยะทางในการเดินทาง
จะเป็นอย่างไรถ้าเติมลมรถเก๋ง มากหรือน้อย เกินกว่ามาตรฐาน
อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่ายางรถยนต์นั้นเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา เราจึงจำเป็นต้องใส่ใจการเติมลมรถให้ถูกวิธี เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและความเสียหายต่อยางของเรา
ลองมาดูกันครับว่าถ้าเราเติมลมรถเก๋งมากเกินไปหรือน้อยเกินไปแล้ว จะมีข้อเสียอย่างไรกับตัวยางล้อและสมรรถนะในการขับขี่ของเราบ้าง
เติมลมน้อยเกินไป
หากเราเติมลมยางน้อยเกินไปจะทำให้ลมยางอ่อนกว่าปกติ จนอาจเกิดผลเสียต่อการขับขี่มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น
- ยางไม่เรียบ เนื่องจากหน้ายางกระทบถนนไม่เท่ากัน จึงทำให้ดอกยางสึกไม่เท่ากัน
- รถกินน้ำมันมากกว่าปกติ เพราะรถหนักขึ้น เครื่องยนต์จึงทำงานหนัก และทำให้รถกินน้ำมันมากกว่าเดิม
- รถออกตัวได้ช้า และรู้สึกว่าเหยียบคันเร่งไม่ค่อยขึ้น
- พวงมาลัยหนัก ควบคุมรถได้ยากขึ้น อาจจะมีอาการรถส่าย และอันตรายเมื่อเข้าโค้ง
เติมลมมากเกินไป
การเติมลมยางมากเกินไปนั้น จะทำให้ยางตึงแข็ง ถึงแม้ว่าในกรณีนี้จะทำให้รถออกตัวได้ดีกว่าการเติมลมยางอ่อน แต่ก็ส่งผลทำให้ความปลอดภัยในการขับขี่ลดลงได้เช่นเดียวกัน ดังนี้
- ประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนลดลง
- ทำให้รถอาจลื่นไถลได้ง่ายเนื่องจากเบรคไม่ค่อยอยู่
- ดอกยางตรงกลางจะเสื่อมเร็วกว่าบริเวณด้านข้าง เนื่องจากสัมผัสถนนมากกว่า
- เสี่ยงต่อการเกิดยางระเบิดเมื่อขับผ่าน บริเวณที่เป็นหลุมหรือบ่อ
สรุป
ยางรถยนต์นั้นเป็นส่วนที่จะต้องสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การเติมลมรถเก๋งจึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าหากเราเติมลมยางไม่เหมาะสม หรือไม่สอดคล้องกับการใช้งาน เช่นการเติมลมยาง น้อยเกินไปหรือมากเกินไป ก็อาจเสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังทำให้ยางเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าที่ควร ซึ่งหากผู้ขับขี่ไม่เคยลองเติมลมยางเองมาก่อนหรือไม่มีความรู้ในด้านนี้ เราแนะนำให้ ปรึกษา หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะดีที่สุด
ที่ศูนย์บริการ ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท มีช่างผู้ชำนาญการไว้คอยบริการให้คำแนะนำ ตรวจเช็ค ดูแล และซ่อมแซมยางรถยนต์ของคุณให้พร้อมใช้งานและลุยต่อได้ ด้วยประสบการณ์ และมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ สามารถดูรายละเอียดบริการเพิ่มเติม ได้ที่นี่
สำหรับลูกค้าท่านใดที่ต้องการคำแนะนำหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์ การเปลี่ยนยาง หรือบริการอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้ตลอดเวลา
สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911
Line: @kc4418
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA
สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356
Line: @kcockpit
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98
โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์
0 Comments