โช๊คอัพ ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถ

โช๊คอัพ

โช๊คอัพ ยี่ห้อไหนดี ควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับรถ

โช๊คอัพ​ เป็นอีก​หนึ่ง​ชิ้นส่วนที่มีความสำคัญอย่างมากของรถยนต์​ เนื่องจากมีหน้าที่ในการรับแรงกระแทก ในระหว่างที่รถกำลังวิ่ง ซึ่งส่งผลต่อความนิ่มนวล และความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง​ ในบทความ​นี้​ ก.เจริญ​ยาง​ยนต์​ และ​ ก.เจริญ​ค็​อก​พิท​ จะพาทุกคนมาแนะนำวิธี​เลือก โช๊ค​อัพ​ ว่าควรเลือกยี่ห้อไหนดี และเลือกอย่างไรให้เหมาะสมกับรถของเรา

ทำความรู้จัก​ “โช๊ค​อัพ” 

โช๊ค​อัพ​ เป็นชิ้นส่วนหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือ ในด้านของความปลอดภัยให้กับการขับขี่ ซึ่ง​จะทำหน้าที่ลดแรงกระแทก ลดการสั่นสะเทือน หรือการโคลงของรถในขณะที่กำลังวิ่ง​ โดยมีลักษณะภายนอกรูปร่างคล้ายขดสปริงขนาดใหญ่ที่ยืดหดได้ 

โช๊คอัพ

สำหรับโช๊คอัพที่เราใช้งานกันในปัจจุบัน จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. โช๊คอัพระบบน้ำมัน

เป็นโช๊คอัพที่ทำงานโดยใช้น้ำมันไฮดรอลิค เป็นตัวทำให้เกิดความหนืด​ โดยในขณะที่โช๊คอัพทำงาน ตัวน้ำมันไฮดรอลิคจะไหลผ่านวาล์วภายในลูกสูบ ทำให้เกิดฟองอากาศอยู่ภายใน ซึ่งฟองอากาศเหล่านี้ อาจทำให้โช๊คอัพขาดช่วงการทำงาน หรือทำงานได้ไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นโช๊คอัพระบบน้ำมัน จึงไม่เหมาะกับรถที่มีการสั่นสะเทือนเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้ตัวน้ำมันไฮดรอลิคสะสมความร้อน และเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

2. โช๊คอัพระบบแก๊ส

เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างแก๊สไนโตรเจน และน้ำมันไฮดรอลิค ซึ่งโช๊คอัพในระบบนี้นิยมใช้กันมากกว่า เนื่องจากทำให้รถยนต์สามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล แม้ต้องวิ่งบนทางที่ขรุขระ​ โดยขณะที่โช๊คอัพทำงานตัวลูกสูบจะเลื่อนมาด้านล่างของกระบอกสูบ​ และน้ำมันไฮดรอลิคส่วนหนึ่งจะไหลผ่านวาล์วขึ้นไปยังห้องน้ำมันด้านบน​ อีกส่วนหนึ่งจะไหลลงไปในห้องน้ำมันสำรองด้านล่าง เมื่อแก๊สไนโตรเจนเกิดการอัดตัวจะทำให้มีแรงดันน้ำมันไฮดรอลิคกลับไปยังกระบอกลูกสูบ ซึ่งโช๊คอัพระบบแก๊สนี้เหมาะสำหรับรถที่ใช้ความเร็วสูง หรือรถที่ต้องบรรทุกหนัก

โช๊คอัพ

รู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนโช๊คอัพรถยนต์ 

สำหรับโช๊คอัพรถยนต์โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3 ปี หรือ 50,000 ถึง 100,000 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของผู้ขับขี่ด้วย ซึ่งหากโช๊คอัพเกิดการชำรุด หรือเสียหาย ก็ควรเปลี่ยนในทันที เพราะหากฝืนขับต่อไปด้วยความเร็วปกติอาจจะเกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุได้

อาการเบื้องต้นที่บ่งบอกว่าโช๊คอัพของรถอาจจะมีปัญหา ได้แก่

  • ความรู้สึกในการขับขี่ไม่นิ่มนวลเหมือนที่เคย
  • ควบคุมรถได้ยาก
  • รถเสียการทรงตัว
  • รู้สึกว่ารถโคลงขณะเลี้ยวหรือเข้าโค้ง

หากรถคุณมีอาการผิดปกติเหล่านี้แนะนำว่า ควรนำรถเข้าตรวจเช็กทันที เพราะมีความเป็นไปได้สูงมากว่าโช๊คอัพของคุณกำลังมีปัญหา

5 ยี่ห้อโช๊คอัพยอดนิยมที่คนใช้มากที่สุด

ในปัจจุบันโช๊คอัพในท้องตลาดนั้นมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ สำหรับเจ้าของรถที่ต้องการเปลี่ยนโช๊คอัพแต่ไม่รู้จะเลือกใช้ยี่ห้อไหนดี​ วันนี้เราจึงรวบรวมเอา 5 ยี่ห้อโช๊คอัพยอดนิยมที่มีคนใช้มากที่สุด มาแนะนำกัน

1. Kayaba

Kayaba หรือ KYB เป็นโช๊คอัพรถยนต์​สัญชาติญี่ปุ่น ที่คนไทยหลายคนนิยมใช้และรู้จักชื่อเสียงเรียงนามกันเป็นอย่างดี เนื่องจากโช๊คอัพของ Kayaba นั้น จะช่วยเพิ่มความหนึบจากโช๊คอัพมาตรฐาน​ โดยจะมีระบบซีลน้ำมันกันรั่วถึง 3 ชั้น และมีระบบวาล์วปรับความหนืดได้อัตโนมัติ​ จึงเหมาะกับรถที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่าง เพราะให้ความรู้สึกการขับขี่ที่นุ่มนวล และสามารถยึดเกาะถนนได้ดีในเวลาเดียวกัน

Kayaba

2. Ozy

สำหรับแบรนด์ Ozy เป็นโช๊คอัพที่ส่งตรงมาจากประเทศออสเตรเลีย เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้นำด้านการผลิตอุปกรณ์ และระบบควบคุมการขับขี่ ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกับทุกสภาพการขับขี่ โดยใช้หลักวิศวกรรมศาสตร์ และหลัก Riding comfort ขับสนุกกว่าด้วยจุดเด่นเรื่องความนุ่มหนึบเกาะถนนได้ดีในทุกสภาพผิวการจราจร ไม่ว่าจะโดยสารทั้งหมด 2 คน หรือมากกว่านั้น 

สำหรับโช๊ค​อัพ รุ่น​ Ozy Monotube Adjustable series ระบบ Monotube​ แก๊ส-น้ำมัน ที่ผู้ขับขี่​สามารถ​เลือกปรับแต่งความนุ่มนวล หรือหนึบนิ่ง ตามสไตล์​การขับขี่​ของตัวเองได้ถึง 32 ระดับ โดยการปรับจูนค่าความนุ่มแข็งมีความละเอียดสูง สามารถ​หมุน​ได้ง่ายๆ​ ผ่านปุ่มปรับบริเวณ​แกนโช๊ค​ ซึ่งแต่ละเบอร์​นั้นจะเปลี่ยนความรู้​สึกในการขับขี่​อย่างเห็นได้ชัด

Ozy

3. Bilstein

โช๊ค​อัพ​รถยนต์​ Bilstein เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่มีชื่อเสียงจากประเทศเยอรมนี และเป็นที่นิยมใช้กันมากในกลุ่มรถ Europe เช่น  Mercedes benz หรือ​ BMW​ มีความโดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยี​ที่ทันสมัย​ เนื่องจากตัวโช๊ค​อัพ​นั้นถูกพัฒนา​มาจากเทคโนโลยีที่ใช้ในสนามแข่งโดยเฉพาะ ตัวโช๊คอัพจึงเหมาะสำหรับใช้งานในทุกสภาพถนน และสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเข้าโค้งได้เป็นอย่างดี ทำให้รถเกาะถนน และไม่เหวี่ยงเวลาเลี้ยว  

Bilstein

4. Koni

สำหรับ​ใคร​ที่​เป็น​สายลุย​ เราขอแนะนำ​เป็นโช๊คอัพจากประเทศสหรัฐอเมริกา แบรนด์นี้เลย​ เพราะเป็นโช๊ค​อัพ​ที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของความทนทาน​ เน้นรถที่บรรทุก​ โดยช่วยลดแรงกระแทก​ ด้วยเทคโนโลยี​ Frequency Selective Damping (FSD) ที่สามารถ​ปรับความหนึบและนุ่มได้อัตโนมัติตามสภาพของถนน​ ทำให้​ช่วยเรื่อง​การทรงตัว​ได้ดีอย่างเห็​น​ได้​ชัด​ จึงเหมาะกับรถประเภทรถกระบะ​มากกว่า​ แต่แบรนด์​นี้จะมีข้อจำกัดในเรื่องความสูง​ จึงทำให้​ไม่สามารถ​ใส่ได้กับรถทุกรุ่น

5. TEIN 

มาจบที่​ TEIN แบรนด์​โช๊ค​อัพ​มาตรฐานระดับโลกสัญชาติ​ญี่ปุ่น​ โดยตัวโช๊คเป็นแบบ Twintube เป็นโช๊คอัพที่ออกแบบมาให้สามารถใช้กับสปริงเดิมติดรถได้เลย ซึ่งจะตอบโจทย์ทั้งความนุ่ม และความหนึบได้อย่างแท้จริง​ นอกจากนี้​ทางแบรนด์​ TEIN ยังได้มีการพัฒนา​ผลิตภัณฑ์​สำหรับรถ​ EV​ ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น ORA good cat, Tesla หรือ BYD​

โดยเฉพาะ​ Tesla​ เพื่อให้ผู้ขับขี่​รถยนต์​ประเภท​นี้ ได้สัมผัสความรู้​สึกในการขับที่นุ่มมากยิ่งขึ้น​ โดยตัวโช๊คจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่น​ย่อย เพื่อให้รองรับกับสเปคและน้ำหนักของรถที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • โช๊คอัพสำหรับ​ TESLA MODEL3 รุ่น 2WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ (MODEL 3 RWD ขับเคลื่อนล้อหลัง) น้ำหนักตัวรถ 1,760 กก.
  • โช๊คอัพ TESLA MODEL3 รุ่น 4WD ขับเคลื่อน 2 ล้อ (MODEL 3 Performance / Long Range) น้ำหนักตัวรถ 1,844 กก.​

TEINสรุป  

“โช๊คอัพ” เป็นชิ้นส่วนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง​ เพราะฉะนั้นการพิจารณา​ว่าจะเลือก​โช๊ค​อัพ​ยี่ห้อไหนดีนั้น​ ผู้ขับขี่​จึงจำเป็นจะต้อง​คำนึงถึง​ประเภท​ของการใช้งาน รวมถึงรายละเอียด​ต่างๆ​ เช่น​ ช่วงชัก หรือระยะยืด-ยุบของโช๊คอัพ ว่าเหมาะกับรถยนต์ของเราหรือไม่​ และที่สำคัญผู้ขับขี่​จะต้องหมั่น​ตรวจเช็กความพร้อมของโช๊ค​อัพ​อยู่เสมอ​ เพื่อความปลอดภั​ยและป้องกันอุบัติเหตุ​บนท้องถนน

ซึ่ง​ทางศูนย์​บริการ​ ก.เจริญ​ยาง​ยนต์ ​และ​ ก.เจริญ​ค็​อก​พิท นั้นมีจำหน่ายโช๊ค​อัพที่ได้มาตรฐาน​ทุกแบรนด์​ที่กล่าวมาข้างต้น สำหรับใครที่กำลัง​มองหา​แบรนด์​ชั้นนำ​ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รถ

รวมถึง​บริการตรวจเช็กและดูแลรถยนต์​ของคุ​ณแบบครบวงจร​ นอกจากนี้​ยังมีบริการเปลี่ยนยางนอกสถานที่​ และจำหน่ายอุปกรณ์​สำหรับรถยนต์ทั้ง​ ผ้าเบรก ล้อแม็ก ยางรถยนต์ ใบปัดน้ำฝน น้ำมันเครื่อง​ และอื่นๆ

ลูกค้าท่านใดที่ต้องการสอบถามข้อมูลในเกี่ยวกับการตรวจเช็กสภาพรถยนต์  การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ การเปลี่ยนยาง​ หรือบริการอื่นๆ​ เพิ่มเติม​ สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้​ตลอด​เวลา

 

สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911

Line: @kc4418

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA

สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356

Line: @kcockpit 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98

โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์

0 Comments

ใส่ความเห็น


ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

เราพร้อมบริการและให้คำแนะนำคุณ
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 35 ปี

© 2009 - 2017 K.Charoenyangyont Co., Ltd. & Mink & Seen Co., Ltd.