“จานเบรก” สำคัญอย่างไร ควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะกับรถคุณ

จานเบรก

“จานเบรก” สำคัญอย่างไร ควรเลือกแบบไหนจึงจะเหมาะกับรถคุณ

สำหรับในบทความนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องราวของหนึ่ง​ใน​อุปกรณ์​สำคัญ​ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของรถยนต์​โดยตรงอย่าง​ ‘จานเบรก’​ 

ถึงแม้ว่าจานเบรกจะเป็นอุปกรณ์​ที่เราไม่จำเป็นต้องเปลี่​ยนบ่อยๆ​ ก็จริง​ แต่ก็เป็นชิ้นส่วนที่เราไม่ควรมองข้าม​ เราลองมาทำความเข้าใจกันดูว่าจานเบรกนั้นสำคัญอย่างไร​ และควรเลือกแบบไหนจึงเหมาะกับรถของคุณ

จานเบรกมีหน้าที่อะไร

จานเบรกนั้นเป็นหนึ่งในชิ้นส่วนของระบบเบรก ที่อยู่ติดกับล้อรถยนต์​ มีหน้าที่รองรับแรงเสียดทาน​ โดยทำงานร่วมกับผ้าเบรกเพื่อให้รถชะลอหรือหยุดนิ่ง

สำหรับจานเบรกนั้นก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด​ ซึ่งแต่ละชนิดก็มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป​ โดยปกติแล้วจานเบรกที่เราเห็นทั่วไปจะแบ่งออกได้เป็น​ 4 ประเภท​ ดังนี้

  • จาน​เบรก​แบบเรียบ

จาน​เบรก​แบบเรียบ

สำหรับจานเบรกในรูปแบบนี้เรามักจะเห็นได้บ่อยๆ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะถูกนำมาใช้​เป็นอุปกรณ์​มาตรฐาน​จากโรงงาน​ ที่ติดมากับรถ​ยนต์​รุ่นที่เราพบเห็นกันทั่วไป​

โดยตัวจานเบรกจะมีลักษณะ​เด่นคือผิวหน้าที่เรียบ ซึ่งข้อดีของจานเบรกประเภทนี้ก็คือสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน เสียงเงียบและทนการเบรกได้ดี​ แต่อาจจะมีข้อเสียในเรื่องการระบายความร้อนที่ทำได้น้อยกว่าจานเบรกประเภทอื่นๆ​ และการที่ฝุ่นเบรกจับตัวเป็นชั้น​ ทำให้เราต้องออกแรงในการเหยียบ​เบรกหนักขึ้น

ซึ่ง​ถ้าผู้ขับขี่ใช้งานรถแบบทั่วไปในชีวิตประจำวันและพึงพอใจกับประสิทธิภาพของจานเบรกแบบเดียวที่มาพร้อมกับรถของคุณจากโรงงาน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนจานเบรกอีกครั้งก็สามารถเลือกใช้จานเบรกแบบเรียบเหมือนเดิมก็ได้​ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้จานเบรกแบบอื่น

  • จานเบรกแบบเจาะรู

จานเบรกแบบเจาะรูนี้​ ตัวจานจะมีลักษณะ​ถูกเจาะเป็นรู เป็นจานเบรกอีกแบบหนึ่ง​ที่มักจะติดมากับรถประเภท​ที่​มี​สมรรถนะ​สูง​ 

เนื่องจาก​ตัวจานเบรกนั้นถูกเจาะเป็นรู​ ​จึงทำให้​มีคุณสมบัติ​ในการไหลเวียนอากาศ​ รวมถึง​ระบายความร้อนสะสม​และจัดการฝุ่นได้ดี​ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพ​การเบรกที่ดีกว่าจานเบรกแบบเรียบ ​เนื่องจาก​มีการเสียดสีที่มากขึ้น

แต่หากเป็นจานเบรกที่ผลิตจาก​วัสดุ​ที่ไม่ได้มาตรฐาน​ ก็อาจจะมีโอกาสเกิดรอยแตกร้าวบริเวณรูที่เจาะได้ 

  • จานเบรกแบบเซาะร่อง

จานเบรกแบบเซาะร่อง

จานเบรกแบบเซาะร่องนี้จะมีลักษณะถูกเซาะเป็นร่องยาวบนผิวหน้า​ ซึ่งส่งผลดีต่อประสิทธิภาพ​ในการเบรก​ จึงเหมาะกับรถ​ SUV​ รถที่ต้องบรรทุกของหนัก หรือรถประเภท​ Off-Road ที่ต้องการการเบรกที่มีประสิทธิภาพ​สูงกว่าปกติ​

สำหรับตัวร่องบนจานเบรกนั้น นอกจากจะทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยกำจัดเขม่าที่เกิดจากความร้อนของผ้าเบรก ทำให้หน้าผ้าเบรกสะอาด​ รวมถึงยังช่วยระบายความร้อนได้ดีอีกด้วย

สำหรับข้อเสียของจานเบรกประเภทนี้นั้นอาจทำให้ตัวผ้าเบรกหมดเร็วขึ้นได้​ เนื่องจากระยะเบรกที่หยุดนั้นสั้นกว่าจานเบรกประเภท​อื่นๆ​

  • จานเบรกแบบเจาะรู​ เซาะร่อง

จานเบรกแบบเจาะรู​ เซาะร่องจานเบรกประเภทนี้เป็นการรวมเอาคุณสมบัติที่ดีของจานเบรกแบบเจาะรูและจานเบรกแบบเซาะร่องมารวมไว้ด้วยกัน ทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพ ระยะเบรกสั้น​ หมุนเวียนอากาศได้ดีขึ้นจึงระบายความร้อนได้ดี และช่วยนำน้ำออกจากระบบเบรกได้​ในช่วงเวลาที่ฝนตก  นอกจากนี้ยังลดฝุ่นและเขม่าที่อยู่บริเวณ​ผ้าเบรกได้ด้วย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรวมกันของจานเบรกทั้ง​ 2​ ประเภท​นี้เป็นการรวมกันทั้งข้อดีและข้อเสีย​ เพื่อแลกกับสมรรถนะ​และประสิทธิภาพ​การเบรกที่ดีขึ้น

โดยจานเบรกแบบเจาะรูและเซาะร่องนี้เหมาะกับทั้งรถบรรทุก​ รถ​ SUV​ รถออฟโรด​ (Off-Road) รวมไปถึงรถที่ใช้ความเร็ว​สูง​อย่าง​รถแข่ง​ด้วย

อาการแบบไหนที่บอกว่าเราควรเปลี่ยนจานเบรก

แม้จะไม่ใช่ชิ้นส่วนที่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนอยู่บ่อย แต่จานเบรกก็เหมือนกับอุปกรณ์​อื่นๆ​ ในรถยนต์​ ที่เมื่อผ่านการใช้งาน​ หรือถูกเสียดสี​กับผ้าเบรกนานๆ​ เข้า​ ก็อาจทำให้เกิดการสึกหรอได้เช่นกัน​ 

คำถามก็คือแล้วเมื่อไหร่ที่เราควรจะเปลี่ยนจานเบรกกันล่ะ? 

ลองมาเช็กกันดูหน่อยว่าอาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าคุณควรเปลี่ยนจานเบรกได้แล้ว

  • จานเบรกเกิดรอยจนเป็นร่อง

หากสำรวจดูแล้วพบว่าตัวจานเบรกเป็นรอยจนเกิดร่องเป็นเส้นๆ​ อาจทำการแก้ไขเบื้องต้นได้ด้วยการเจียจานเบรกให้กลับมาเรียบเสมอกัน​ แต่ถ้าหากเจียแล้วมีความบางต่ำกว่ามาตรฐาน​ ก็ต้องทำการเปลี่ยนจานเบรก

  • จานเบรกสึก

หากผิวหน้าจานเบรกสึก​หรือไม่เรียบเสมอกัน​ เวลาเบรกจะรู้สึกว่าสั่นสู้เท้า ในกรณีนี้ถ้าเป็นไม่มากนักก็ สามารถเจียจานเบรกได้​ แต่ถ้ามีอาการหนัก​ ก็ต้องทำการเปลี่ยนจานเบรกเช่นกัน

  • จานเบรกเป็นสนิม

ถ้าเกิดสนิมกัดกร่อนจานเบรกไม่มากนัก​ เราสามารถแก้ไขด้วยการเจียจานเบรกได้​ แต่หากมีสนิมขึ้นเกิน​ 50% ของจานเบรก​ แนะนำว่าให้เปลี่ยนใหม่จะปลอดภัย​ต่อการขับขี่มากที่สุด

  • จาน​เบรก​ไหม้

หากจานเบรกร้อนจัดจนเกิดการไหม้จากการสะสมความร้อน​ หรือสังเกต​ง่ายๆ​ ว่าตัวจานเบรกบางส่วนมีการเปลี่ยนเป็น​สีฟ้าหรือสีน้ำเงิน​ หากเป็นสีฟ้าไม่เข้มมาก​ ให้รอจนเย็นก็จะสามารถ​กลับมา​ใช้งาน​ได้​ตามปกติ​ แต่ถ้าจานเบรกเป็นสีน้ำเงินเข้มควรรีบเปลี่ยนจานเบรกทันที

  • จานเบรกคด

ส่วนใหญ่แล้วการที่จานเบรก​คดนั้นมักเกิดจาก การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างกะทันหัน เนื้อเหล็ก​จึงหดตัว​ทำให้เกิดการไม่เท่ากันของจานเบรกในแต่ละข้าง​ หากเกิดอาการเช่นนี้​ ก็ควรทำการเปลี่ยนจานเบรกใหม่เช่นกัน

  • จานเบรกร้าว

ความจริงแล้วถ้าตรวจสอบพบว่าจานเบรกมีรอยร้าว​ แต่ไม่มากนัก​ ก็สามารถแก้ไขเบื้องต้นด้วยวิธีการเจียจานเบรกได้​ แต่ต้องบอกก่อนว่ามีโอกาสสูงมากที่จานเบรกจะกลับมาร้าวเพิ่มเติมอีก​ ทางที่ดีแนะนำว่าให้เปลี่ยนจานเบรกใหม่เพื่อการทำงานอย่าง​เต็มประสิทธิภาพ​จะดีที่สุด

สรุป

จานเบรกนั้นเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ​ที่มีผลโดยตรงกับความปลอดภัย​ในการ​ขับขี่​ ดังนั้นหากเรารู้สึกถึงความผิดปกติในการเหยียบเบรก​ ไม่ว่าจะเป็นการเบรกแล้วมีเสียงดัง​ หรือเกิดอาการ​สั่นสู้เท้าขณะเบรก​ ก็ควรต้องรีบตรวจสอบ​และแก้ไข​ หรือเปลี่ยนจานเบรกใหม่โดยเร็ว​ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ​ในความปลอดภัย​ และหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ​ขณะเดินทาง 

และแน่นอนว่านอกจากจานเบรกที่ดีมีคุณภาพแล้ว การมีน้ำมันเบรกที่น่าเชื่อถือก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ประโยชน์ของน้ำมันเบรกมีอะไรบ้าง และควรเปลี่ยนตอนไหนจึงจะเหมาะสม สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อน้ำมันเบรก

สำหรับลูกค้าท่านใดที่ต้องการต้องการสอบถามข้อมูล คำแนะนำหรือบริการอื่นๆ​ เพิ่มเติม สามารถติดต่อ ก.เจริญ​ยาง​ยนต์​และ​ ก.เจริญ​ค็อกพิท ได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร

 

สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911

Line: @kc4418

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA

สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356

Line: @kcockpit 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98

โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์

 

0 Comments

ใส่ความเห็น


ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ

เราพร้อมบริการและให้คำแนะนำคุณ
ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 35 ปี

© 2009 - 2017 K.Charoenyangyont Co., Ltd. & Mink & Seen Co., Ltd.