รวมรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าน่าสนใจ ประจำปี 2023
รถยนต์ไฟฟ้า เป็นนวัตกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงวงการยานพาหนะในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก ด้วยความโดดเด่นในด้านความเสถียรและพลังงานสะอาด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ขับขี่
ซึ่งการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าก็ได้รับความสนใจ และการสนับสนุนจากผู้ผลิตรถยนต์หลายแบรนด์เช่นกัน ทำให้มีรถยนต์ไฟฟ้าที่มีคุณภาพและความหลากหลายในตลาด ผู้ขับขี่สามารถเลือกรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์การขับขี่ได้ตามต้องการ ในบทความนี้ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท พามาดูกันว่าในปี 2023 มีรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง
เทรนด์การใช้งานรถ EV หรือ Electric Vehicle ในปัจจุบัน
ในยุคที่ความต้องการยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้คนที่กำลังมองหาวิธีการขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว บวกกับเทรนด์ในการใช้งานที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้คนเริ่มสนใจ และใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันมากขึ้น
ในทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระยะทางขับขี่ที่เพิ่มมากขึ้น ระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย และฟีเจอร์อัจฉริยะที่เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าหลายค่ายผู้ผลิตรถยนต์เองก็ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและผู้บริโภคให้มากที่สุด
รวม 8 รถยนต์ไฟฟ้า ปี 2023 ที่น่าใช้งาน
1. BYD ATTO 3
ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอีกหนึ่งค่ายที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคงหนีไม่พ้นแบรนด์ BYD และรุ่นที่ถูกพูดถึงกันในวงกว้างก็คือ BYD ATTO 3 ที่สร้างปรากฏการณ์ที่คนไทยมารอต่อคิวจองกันตั้งแต่เช้ามืด เพราะเมื่อลองเปรียบเทียบกับคู่แข่งในเรื่องสมรรถนะ และขุมพลังแล้ว ATTO 3 นับว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่าไม่เป็นสองรองใคร
สำหรับ BYD ATTO 3 นั้นใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 1 ตัว ขนาด 150 kW ติดตั้งบริเวณล้อหน้า มอบพละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 1 สปีด มาพร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 49.9 kWh อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.3 วินาที และสามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 410 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยมีขนาดล้ออยู่ที่ 18 นิ้ว และยางล้ออยู่ที่ 215/55 R18
ราคาจำหน่ายของ BYD ATTO 3 2023 ในประเทศไทย แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อย คือ
- ATTO 3 Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
- ATTO 3 Extended Range ราคา 1,199,900 บาท
2. MG4 ELECTRIC
MG4 ELECTRIC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย MG ที่ได้รับความสนใจจากผู้ขับขี่เป็นอย่างมากกับสเปคที่คุ้มค่าคุ้มราคา ด้วยช่วงล่างแบบ Nebula Pure Electric Platform ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะเพื่อรถยนต์ไฟฟ้า มาพร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลัง Dynamic Rear Wheel Drive ซึ่งถ้าชาร์จแบตเตอรี่เต็มจะสามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 425 กิโลเมตรเลยทีเดียว สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้มีขนาดล้อ 17 นิ้ว และยางล้ออยู่ที่ 215/50 R17
โดย MG4 ELECTRIC มีรุ่นย่อยด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น โดยมีราคาจำหน่าย ดังนี้
- MG4 ELECTRIC Icon รุ่น D ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 869,000 บาท
- MG4 ELECTRIC Icon รุ่น X ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 969,000 บาท
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ https://www.mgcars.com/
3. NETA V
NETA V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Touchable Smart EV” หรือรถยนต์ไฟฟ้าที่จับต้องได้ มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามารถขับขี่ได้ไกลสูงสุดถึง 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง รวมถึงอุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟท้ายแบบ LED ระบบไฟส่องนำทางหลังดับเครื่องยนต์ ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบปรับตั้งเวลาหน่วงได้ รวมไปถึงล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว และยางขนาด 185/55 R16
โดยรถ NETA V มีการชูจุดขายในเรื่องของราคาที่เปิดตัว เพียง 549,000 บาท เท่านั้น ซึ่งราคานี้รวมเครื่องชาร์จไฟบ้าน AC Wallbox Charger พร้อมค่าติดตั้งเรียบร้อยแล้วด้วย
4. ORA Good Cat
หากจะพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าที่หน้าตาน่ารักมากที่สุดคงหนีไม่พ้น แมวเหมียวไฟฟ้า อย่าง ORA Good Cat ที่สร้างเสียงฮือฮาจนเป็นกระแสในโซเชียลตั้งแต่งยังไม่เปิดจอง แต่ภายใต้รูปทรงที่ดูน่ารักน่าใช้นั้น ก็แอบซ่อนฟังก์ชันอุปกรณ์มาตรฐานมาให้แบบจัดเต็ม โดยเฉพาะหน้าจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว ที่รวบรวมเอาเมนูการตั้งค่าต่างๆ ของตัวรถและระบบความบันเทิงทั้งหมดมาไว้ที่หน้าจอเดียว
ORA Good Cat มีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นหลักๆ ได้แก่
- ORA Good Cat 400 TECH : ล้อ 17 นิ้ว ยาง 205/55R17
- ORA Good Cat 400 : ล้อ 18 นิ้ว ยาง 215/50R18
- ORA Good Cat 500 ULTRA : ล้อ 18 นิ้ว ยาง 215/50R18
จุดเด่นของ ORA Good Cat ก็คือสีรถภายนอกที่มีหลากหลาย ให้เลือกตามความชอบทั้งหมดถึง 7 สี ซึ่งระยะทางในการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งก็จะอยู่ที่ 400 และ 500 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็แล้วแต่รุ่นที่เลือกด้วย ซึ่งราคาจำหน่ายของ ORA Good Cat ในประเทศไทย มีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 828,500 บาท ถึง 1,038,500 บาท
5. BMW i7
BMW i7 นั้นเป็นรถยนต์ซีดานพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกผสานสมรรถนะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่เหนือชั้นกับความหรูหรา และความบันเทิงแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูงจากลำโพงที่ติดตั้งมาในตัวรถรวมทั้งหมดกว่า 39 ตัว หรือ BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว ที่เป็นเหมือนโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัวสุดพิเศษ และอุปกรณ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น จอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display แถบ BMW Interaction Bar ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant และหน้าจอ BMW Head-up Display เป็นต้น
ในด้านสมรรถนะนั้น BMW i7 มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว พละกำลังรวม 400 กิโลวัตต์/544 แรงม้า มอบอัตราเร่งอันทรงพลังด้วยแรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า สามารถวิ่งได้สูงสุดที่ 625 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งรอบ โดยความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 4.7 วินาที เท่านั้น โดยมีขนาดล้อ 19 นิ้ว และยางล้ออยู่ที่ 245/50 R19
ราคาจำหน่ายของ BMW i7 ในประเทศไทย มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ดังนี้
- BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition) ราคา 7,599,000 บาท
- BMW i7 xDrive60 M Sport ราคา 7,849,000 บาท
- BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคา 8,599,000 บาท
6. Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC
Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC สำหรับรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประกอบและจำหน่ายในไทย โดยเปิดตัวครั้งแรกในช่วงปลายปี 2565 โดยแบตเตอรี่ความจุ 107.8 kWh และ มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว กำลังสูงสุด 333 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 568 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลาเพียงแค่ 31 นาที เท่านั้น ด้วยเครื่องชาร์จเร็ว 200kW โดยสามารถวิ่งได้ไกลสุด 770 km. ต่อการชาร์จ และทำอัตราเร่ง 0 – 100 km/h ได้ภายใน 6.2 วินาที โดยมาพร้อมกับชุดตกแต่งตัวถังภายนอกแบบ AMG ล้อแมกขนาด 21 นิ้ว ขนาดล้อ 19 นิ้ว และยางขนาด 265/40 R21
ซึ่งความฉลาดของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็คือ ตัวรถจะคำนวณระยะทางจากพฤติกรรมการขับก่อนหน้า ซึ่งทำให้แต่ละครั้งที่ชาร์จเต็มนั้นได้ระยะทางที่วิ่งได้ไม่เท่ากัน บางครั้งอาจจะวิ่งได้แค่ 700 กม. หรือบางครั้งอาจจะได้มากถึง 800 กม. ก็เป็นได้
สำหรับฟีเจอร์ล้ำสมัยโดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยก็มาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทาง EQS ดีที่สุดอย่างไร ที่แสดงผลได้อย่างรวดเร็วในรูปแบบภาพแบบ 3 มิติ นอกจากนี้ยังมีกล้องที่คอยตรวจจับใบหน้าผู้ขับอีกด้วย ซึ่งถ้าเมื่อไหร่ที่ระบบพบว่าคนขับหลับใน คอพับ หรือละมือออกจากพวงมาลัย ระบบนี้จะสั่งงานโดยพวงมาลัยสั่นก่อน ตามมาด้วยการกระตุกเข็มขัดนิรภัยเพื่อให้ตื่น และชะลอความเร็วทันที พร้อมค่อยๆ ขยับชิดซ้าย เปิดไฟฉุกเฉิน และเบรกให้อัตโนมัติ
ซึ่งราคาจำหน่ายของ Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC ในประเทศไทย ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 7,900,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : mercedes-benz.co.th
7. Volvo C40 Recharge Pure Electric
Volvo C40 Recharge Pure Electric เป็นรถไฟฟ้า SUV Coupe ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD มาพร้อมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 78 kWh ขุมพลังจากมอเตอร์คู่ 408 แรงม้า แรงบิด 660 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0 – 100 ได้ในระยะเวลาเพียง 4.7 วินาที มาพร้อมกับล้อขนาด 19 นิ้ว และยางล้อขนาด 235/50 R19
ส่วนทางด้านการชาร์จไฟนั้นแน่นอนว่า DC Quick Charge 0-80% ภายใน 37 นาที กำลังไฟสูงสุด 150kW ส่วนการชาร์จไฟแบบทั่วไปนั้น AC สูงสุด 11 kW ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง สำหรับการชาร์จ 1 ครั้งนั้น Volvo C40 สามารถวิ่งได้ไกลถึง 420 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ราคาจำหน่ายของ Volvo C40 Recharge Pure Electric ในประเทศไทย ราคาเริ่มต้น 2,490,000 ล้านบาท
8. Tesla Model 3
สำหรับลำดับสุดท้ายนี้ เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยมที่ปลุกความต้องการของใครหลายๆ คนให้หันมาสนใจและศึกษารถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้นอย่าง Tesla Model 3 ที่เปิดตัวครั้งแรกในไทยในช่วงปลายปี 2022 และเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของ Tesla ในปัจจุบัน เนื่องจากรูปลักษณ์ในแบบสปอร์ต ที่มาพร้อมกับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยรุ่นนี้นั้นขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัวที่ล้อคู่หลัง ด้วยกำลังสูงสุด 347 แรงม้า และสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 225 กิโลเมตร/ชั่วโมง
พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion Phosphate (LFP) ความจุ 57.5 kWh โดยมีระยะวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ อยู่ที่ 559 กิโลเมตร รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 7.6 kW และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC Fast Charge สูงสุด 250 kW
สำหรับ Tesla Model 3 มีจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่
- Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive: ล้อ 18 นิ้ว 235/45 R18 ราคาเริ่มต้น 1,759,000 บาท
- Tesla Model 3 Long Range 2023: ล้อ 19 นิ้ว ยาง 235/40 R19 ราคาเริ่มต้น 1,990,000 บาท
- Tesla Model 3 Performance 2023: ล้อ 20 นิ้ว ยาง 235/35 R20 ราคาเริ่มต้น 2,309,000 บาท
ข้อมูลรายละเอียดจาก เว็บไซต์ Tesla ประเทศไทย
และนี่ก็คือ 8 รุ่นรถยนต์ไฟฟ้า จาก 8 ค่ายชั้นนำที่เราอยากแนะนำให้คุณได้รู้จัก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังเริ่มมองหารถยนต์ไฟฟ้าสักคัน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน และรองรับกับเทรนด์นวัตกรรมยานยนต์สมัยใหม่ นอกจากนี้แล้วเรายังมีบทความอื่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับอุปกรณ์รถยนต์ต่าง ๆ เช่น ยางรถยนต์ โช๊คอัพ ผ้าเบรก น้ำมันเครื่อง และอื่นๆ สามารถอ่านบทความเกี่ยวกับรถเพิ่มเติมได้ที่ https://www.kcharoenyangyont.com/news-promotion/
สำหรับลูกค้าท่านใดที่ต้องการคำแนะนำ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์ การเปลี่ยนยาง หรือบริการอื่นๆ เพิ่มเติม ที่ศูนย์บริการ ก.เจริญยางยนต์ และ ก.เจริญค็อกพิท มีช่างผู้ชำนาญการไว้คอยบริการให้คำแนะนำ ตรวจเช็ก ดูแล และซ่อมแซมรถยนต์ของคุณให้พร้อมใช้งานและลุยต่อได้ ด้วยประสบการณ์ และมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับ
สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้ตลอดเวลา
สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911
Line: @kc4418
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA
สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356
Line: @kcockpit
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98
โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์
0 Comments