แรงเสียดทานคืออะไร เกี่ยวอะไรกับถนน ทำไมคนขับรถยนต์ควรรู้เรื่องนี้
ความไวและความโฉบเฉี่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับรถยนต์ เป็นหนึ่งในสิ่งที่เพิ่มความเร้าใจ ช่วยเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้อย่างเหนือระดับ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าแรงที่ใช้ในการขับเคลื่อนและทำงานของรถยนต์คืออะไร? แล้วแรงนั้นสำคัญอย่างไรบ้างต่อการเคลื่อนที่บ้าง? ในบทความนี้ เราจะมาไขคำตอบกันว่า “แรงเสียดทาน” คืออะไร? เพื่อให้คนขับรถยนต์ใช้ประโยชน์จากแรงเสียดทานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แรงเสียดทาน คืออะไร
แรงเสียดทาน (Friction) คือ แรงต้านการเคลื่อนที่บนผิวสัมผัสที่เกิดขึ้นระหว่างวัตถุ หรือแรงที่ต้านทานการเคลื่อนที่ของวัตถุไปบนพื้นผิวสัมผัส ซึ่งส่งผลให้วัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่ช้าลงหรือหยุดนิ่งไปในท้ายที่สุด ดังนั้น แรงเสียดทานจึงมีทิศทางตรงกันข้ามกับการเคลื่อนที่ของวัตถุ และมีขนาดขึ้นอยู่กับลักษณะของพื้นผิวสัมผัส และแรงหรือน้ำหนักที่กระทำในลักษณะตั้งฉากต่อพื้นผิวดังกล่าว หากแรงกดตั้งฉากกับผิวสัมผัสมีขนาดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งส่งผลให้เกิดแรงเสียดทานมากขึ้นเท่านั้น
ประเภทของแรงเสียดทาน
แรงเสียดทานแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. แรงเสียดทานชนิดแห้ง
แรงเสียดทานชนิดแห้ง (Dry Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสกันของวัตถุที่มีสถานะเป็นของแข็ง โดยแรงเสียดทานชนิดแห้งสามารถจำแนกออกเป็น 2 ชนิดย่อย ได้แก่
- แรงเสียดทานสถิต คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นในขณะที่วัตถุอยู่นิ่งจนถึงเริ่มต้นเคลื่อนที่
- แรงเสียดทานจลน์ คือ แรงเสียดทานขณะวัตถุกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงตัว ซึ่งจะมีค่าน้อยกว่าแรงเสียดทานสถิต
2. แรงเสียดทานในของไหล
แรงเสียดทานในของไหล (Fluid Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของวัตถุในของไหล (Fluid) หรือการเคลื่อนที่ของวัตถุในสสารที่มีสถานะเป็นของเหลวและก๊าซ เช่น ความต้านทานของอากาศที่กระทำต่อเครื่องบินหรือการต้านทานของน้ำที่กระทำต่อเรือ เป็นต้น
3. แรงเสียดทานจากการหมุน
แรงเสียดทานจากการหมุน (Rolling Friction) คือ แรงเสียดทานที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของวัตถุทรงกลมหรือมีพื้นผิวกลมมนบนพื้นผิวสัมผัส ซึ่งการเคลื่อนที่ของล้อรถบนถนนเป็นแรงเสียดทานจากการหมุน
ปัจจัยที่มีผลต่อแรงเสียดทาน
หลังจากที่ทำความเข้าใจกันแล้วว่าแรงเสียดทานคืออะไร และมีกี่ประเภท เรามาดูกันดีกว่าว่ามีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้เกิดแรงเสียดทาน
- น้ำหนักหรือแรงกดของวัตถุที่กดลงบนพื้น ถ้าน้ำหนักหรือแรงกดของวัตถุมาก จะเกิดแรงเสียดทานมาก ถ้าน้ำหนักหรือแรงกดของวัตถุน้อยจะเกิดแรงเสียดทานน้อย
- ลักษณะของผิวสัมผัส ถ้าผิวสัมผัสหยาบ ขรุขระ จะเกิดแรงเสียดทานมาก ส่วนผิวสัมผัสเรียบลื่นจะเกิดแรงเสียดทานน้อย
ประโยชน์ของแรงเสียดทานในการขับขี่รถยนต์
แรงเสียดทาน คือ ตัวแปรสำคัญในการผลิตและสร้างสรรค์สิ่งของมากมาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์หรือยานพาหนะต่าง ๆ โดยมีประโยชน์ในการขับขี่ดังนี้
- แรงเสียดทานทำให้รถยนต์เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการได้ เช่น ในขณะที่รถแล่น ล้อกับถนนต้องมีแรงเสียดทาน ถ้าไม่มีแรงเสียดทานรถจะแล่นไม่ได้ ล้อรถจะหมุนอยู่กับที่
- แรงเสียดทานช่วยไม่ให้รถลื่นโดยเฉพาะเวลาฝนตก
- ยานพาหนะแต่ละชนิด ต้องมีทั้งการลดแรงเสียดทานในอุปกรณ์บางส่วนและเพิ่มแรงเสียดทานในบางส่วน เพื่อให้ยานพาหนะมีประสิทธิภาพและปลอดภัย เช่น รถ เรือ หรือเครื่องบิน ต้องให้หัวแหลมเพื่อลดความเสียดทานของอากาศหรือน้ำ
การเพิ่มแรงเสียดทาน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
- ใช้ยางรถยนต์มีดอกยางเป็นลวดลาย มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มแรงเสียดทาน ระหว่างล้อกับถนน
- การหยุดรถต้องเพิ่มแรงเสียดทานที่เบรก เพื่อหยุดหรือท าให้รถแล่นช้าลง
สรุป แรงเสียดทาน
แรงเสียดทาน คือ หนึ่งในกลไลที่ทำให้เกิด “แรงต้านทานการหมุนต่ำ” ซึ่งเป็นแรงต่อต้านของยาง ที่ทำให้ยางรถยนต์หมุนด้วยความเร็วที่กำหนด โดยยางรถยนต์ที่มีแรงต้านทานการหมุนต่ำถูกออกแบบมาให้สามารถลดแรงเสียดทาน หรือแรงต้านทาน ทำให้ใช้แรงเคลื่อนตัวการหมุนของล้อยางน้อยกว่ายางรถยนต์ทั่วไป และช่วยประหยัดน้ำมันได้นั่นเอง
หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยางรถยนต์ บริการเปลี่ยนยาง และบริการอื่น ๆ สามารถติดต่อผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้ตลอดเวลา
สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911
Line: @kc4418
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA
สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356
Line: @kcockpit
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98
โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ก.เจริญยางยนต์
0 Comments