“ตัวเลขบนยาง” บอกอะไรเรา พร้อมเจาะลึกการอ่านรายละเอียดอย่างครบถ้วน
ถ้าหากเราลองสังเกตยางรถยนต์ที่เราใช้กันทุกวันนี้ เราจะพบว่ามีตัวอักษรและตัวเลขบนยางระบุไว้ ซึ่งแต่ละตัวอักษรก็มีความหมายที่แตกต่างกันไปของในแง่การใช้งาน ซึ่งบทความนี้ ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท จะมาเจาะลึกวิธีการอ่านรายละเอียดพร้อมความหมายอย่างครบถ้วน
ตัวเลขบนยางมีประโยชน์อย่างไร?
สำหรับผู้ขับขี่นอกจากจะต้องพิจารณาในเรื่องของยี่ห้อและราคาที่เหมาะสมของยางรถยนต์แล้ว สิ่งที่ไม่ควรละเลยก็คือตัวเลขต่างๆ ที่อยู่บนตัวยาง เพราะตัวเลขเหล่านั้นจะเป็นตัวที่บ่งบอกถึงรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ชนิดของยาง ความกว้างของหน้ายาง ความสูงของแก้มยางขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง พิกัดน้ำหนักในการบรรทุก พิกัดความเร็ว รวมถึงวันที่ผลิตยาง
ซึ่งตัวเลขบนยางเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกซื้อยางใหม่ที่มีประสิทธิภาพ เหมาะสมกับการใช้งาน และรถของเราได้อย่างเต็มสมรรถนะเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วิธีการดูตัวเลขบนยาง
สำหรับในบทความนี้ ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท จะมาเจาะลึกพร้อมยกตัวอย่าง วิธีการดูตัวเลขบนยางรถยนต์ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รู้ความหมายแบบละเอียดและสามารถอ่านตัวเลขแต่ละตัวที่ปรากฏบนยางได้อย่างครบถ้วน
ตัวอย่าง
เลขที่ระบุบนยางรถยนต์: 225/45 R19 92W
รายละเอียดและความหมายมีดังนี้
- ตัวเลขที่บอกความกว้างของหน้ายาง:
โดยความกว้างของหน้ายางนี้จะมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร ในที่นี้คือเลข 225 ซึ่งก็หมายความว่ายางเส้นนี้มีความกว้าง 225 มิลลิเมตรนั่นเอง
- ตัวเลขที่บอกความสูงของแก้มยาง:
ตัวเลขกลุ่มถัดมาจะเป็นตัวเลขที่บอกถึงความสูงของแก้มยาง มีหน่วยเป็นเปอร์เซ็นต์ ในที่นี้คือ 45% โดยมีวิธีคำนวณผกผันตามตัวเลขชุดแรก ดังนี้ 255 x 45 / 100 = 101.25 มิลลิเมตร เป็นต้น
- โครงสร้างยางและขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง:
สำหรับตัวเลขชุดต่อไปจะเป็นตัวอักษรผสมกับตัวเลข ตัว R นั้นหมายความถึงโครงสร้างยางแบบเรเดียล(Radial) ส่วนตัวเลขที่อยู่ติดกันนั้นคือขนาดของเส้นผ่าศูนย์กลาง มีหน่วยเป็นนิ้ว หรือที่เรามักเรียกกันแบบติดปากว่าขอบล้อ โดยจะมีขนาดต่างๆ ซึ่งผู้ใช้งานต้องเลือกใช้ขนาดของล้อและยางให้ตรงกันด้วย ในตัวอย่างนี้คือ R19 นั่นก็หมายความว่า ยางรถยนต์นี้มีโครงสร้างยางแบบเรเดียล(Radial) ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 19 นิ้ว นั่นเอง
- ดัชนีในการรับน้ำหนักของยาง:
เลขถัดมาจะเป็นตัวเลขที่บ่งบอกถึงดัชนีในการรับน้ำหนักของยางต่อเส้น โดยจะต้องนำตัวเลขไปเทียบค่ามาตรฐานของผู้ผลิตยาง สำหรับในตัวอย่างนี้เป็นเลข 92 ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 630 กิโลกรัมต่อเส้น เป็นต้น
- ค่าความเร็วสูงสุด
ตัวอักษรตัวสุดท้ายนั้นเป็นตัวระบุค่าความเร็วสูงสุดของยางแต่ละเส้น โดยสามารถแบ่งได้ ดังนี้
- L ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- M ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- N ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- Q ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- R ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- S ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- T ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- U ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- H ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- V ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- Z ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 240+ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- W ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- Y ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
แต่ความเร็วในที่นี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสเปกของรถแต่ละคันที่กำหนดไว้เช่นกัน ซึ่งขนาดของยางนั้นก็จะมีระบุความเร็วของแต่ละขนาดไว้ด้วย
เลือกซื้อยางเส้นใหม่อย่างไรให้ไม่พลาด
สำหรับใครที่มีแพลนจะเปลี่ยนยางเส้นใหม่ นอกจากจะอ่านเลขบนยางได้อย่างเข้าใจแล้ว ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท มีขั้นตอนการเลือกซื้อยางเส้นใหม่มาแนะนำ ดังนี้
1.เลือกขนาดยางให้เหมาะสม
การเลือกใช้ยางที่มีขนาดใกล้เคียงกับยางมาตรฐานที่ติดตั้งมาจากโรงงานนั้นถือได้ว่าเป็นขนาดยางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับรถของคุณ แต่ถ้าหากมีการเปลี่ยนล้อให้เล็กลงจากเดิมก็ควรเพิ่มขนาดแก้มยางให้ใหญ่ขึ้น หรือหากมีการเปลี่ยนล้อให้ใหญ่ขึ้นก็ควรลดขนาดแก้มยางให้เล็กลง โดยให้เส้นรอบวงมีขนาดใกล้เคียงกับล้อมาตรฐานมากที่สุด
2.เช็กสภาพของยางทุกครั้ง
ก่อนจะซื้อยางใหม่ทุกครั้ง ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบสภาพยางทุกครั้งว่าเนื้อยางอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่แข็งกระด้าง ไม่มีรอยแตกลาย ไม่มีบาดแผลหรือร่องรอยการรั่ว ยางไม่บวม รวมถึงตัวดอกยางต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
3.เลือกให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การขับขี่
การเลือกยางตามไลฟ์สไตล์การขับขี่ และสภาพถนนที่ใช้งานเป็นประจำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าส่วนใหญ่ผู้ใช้งานขับขี่บนถนนเรียบเป็นหลักก็ควรเลือกใช้อย่างที่มีดอกยางละเอียด มีร่องยางถี่และแคบ เพื่อให้หน้ายางได้สัมผัสกับผิวถนนมากที่สุด แต่ถ้าหากคุณต้องขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระหรือต้องขับลุยโคลนในลักษณะเส้นทางออฟโรด หรือสภาพถนนในต่างจังหวัดที่ไม่ค่อยเรียบนักเป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้ดอกยางที่มีขนาดใหญ่และมีร่องห่าง เพื่อเป็นตัวช่วยให้โคลนและหินต่างๆไม่ติดตามร่องยาง หรือเป็นยาง off-road นั่นเอง
สรุป
ตัวเลขบนยางรถยนต์นั้นมีความหมายในการบอกคุณลักษณะต่างๆ ของยาง เพื่อให้ผู้ใช้งานนั้นได้รู้ถึงรายละเอียดการใช้งานและขีดจำกัดของยางเส้นนั้นๆ ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรทำความเข้าใจ และศึกษาอย่างละเอียด เพื่อจะได้สามารถเลือกยากที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับรถของเราได้มากที่สุด
ซึ่งที่ ก.เจริญยางยนต์และ ก.เจริญค็อกพิท มีจำหน่ายยางรถยนต์จากแบรนด์ชั้นนำที่หลากหลาย รวมถึงยังมีบริการเปลี่ยนยางนอกสถานที่ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอีกด้วย
สำหรับลูกค้าท่านใดที่ต้องการคำแนะนำหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับยางรถยนต์ การเปลี่ยนยาง หรือบริการอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้ตลอดเวลา
สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911
Line: @kc4418
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA
สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356
Line: @kcockpit
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98
โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์
0 Comments