(TH) ยาง Continental ยางสัญชาติเยอรมันที่น่าจับตามอง​

ยาง continental

Sorry, this entry is only available in Thai. For the sake of viewer convenience, the content is shown below in the alternative language. You may click the link to switch the active language.

ยาง Continental ยางสัญชาติเยอรมันที่น่าจับตามอง​

หากพูดถึงแบรนด์​ยางรถยนต์​ระดับโลก​แล้ว​ คิดว่าคนที่ชื่นชอบเรื่องความเร็วและยานยนต์​คงไม่มีใครไม่รู้จัก​แบรนด์ยางสัญชาติ​เยอรมันอย่าง​ “Continental” (คอนติเนนทอล)​ อย่างแน่นอน

เพราะนอกจากแบรนด์​นี้จะอยู่มาอย่างยาวนานในวงการยางรถยนต์​มากว่า​ 150 ปีแล้ว​ ก็ยังเป็นโรงงานผู้ผลิตยางที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ4 ของโลกด้วย

วันนี้​ ก.เจริญ​ยาง​ยนต์​และ​ ก.เจริญ​ค็อกพิท​ จะพามาทำความรู้จักกับยาง​ Continental​ ให้มากขึ้น​ ว่าทำไมยางของ​ Continental​ ถึงยืนหนึ่ง​ใน​ใจผู้ขับขี่ได้ยาวนานขนาดนี้

ทำความรู้จัก​ยาง​ Continental​ (คอนติเนนทอล)​

แบรนด์ Continental​ ก่อตั้งขึ้นในประเทศเยอรมนี​ในฐานะโรงงานผู้ผลิต​ยางมาตั้งแต่ปี​ ค.ศ.​ 1871 โดยคำนึงถึง​ความปลอดภัย​ ความสบาย​ และความพึงพอใจ​ในการขับขี่​เป็นเป้าหมาย​สำคัญ​

ซึ่ง​ตลอด​ 151 ปีที่ผ่านมานี้​​ Continental​ ก็ยังคงพัฒนาความชำนาญ​ด้านการผลิต​ยางอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านองค์​ความรู้​และนวัตกรรม​ใหม่ๆ​ โดยปัจจุบัน​ภายในองค์กร​นั้นมีพนักงานที่มีความชำนาญสูงมากกว่า 200,000 คนใน 53 ประเทศที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อให้บรรลุ​วัตถุประสงค์ดังกล่าว

โดดเด่น​กว่าเรื่องของการเบรก

ผลงานโดดเด่นที่ตอกย้ำว่า​ Continental​ เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี​การผลิต​ยางรถยนต์​เริ่มต้นขึ้นในปี 

ค.ศ.​ 1904 เมื่อ​ทางแบรนด์​ได้คิดค้นนวัตกรรม​ใหม่และเปิดตัว​ “ยางที่มีร่องดอกยาง” เป็นครั้งแรกในโลก​ ซึ่งนวัตกรรม​นี้จะช่วยเพิ่มสมรรถนะ​ในการยึดเกาะถนน​และป้องกันการลื่นไถล​ ทำให้การขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น​ ซึ่ง​นวัตกรรม​นี้นั้นยังถือเป็นต้นแบบของยางรถยนต์​ที่มีดอกยางที่เราใช้กันในปัจจุ​บัน​ด้วย

ด้วยประสบการณ์​ที่ยาวนาน​ทำให้​ Continental​ มีความเข้าใจในเรื่องของสภาพถนนในทุกรูปแบบ​ โดยมีการทดลองจนค้นพบวิธีเบรกที่เหมาะสมกับสภาพถนนเหล่านี้​ และนำผลการทดลองที่ได้มาพัฒนา​นวัตกรรม​ รวมถึง​กำหนดมาตรฐานให้กับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ​ ทุกประเภท​ 

ทดสอบจนแน่ใจ​ เพื่อความปลอดภั​ยในการขับขี่

ก่อนที่จะปล่อยผลิตภัณฑ์​แต่ละตัวออกสู่​ตลาด​นั้นจะต้องผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดจาก Continental AG Contidrom​ Contidrom ซึ่งเป็นสถานที่วิจัยที่มีสนามแข่งในตัว​ ด้วยวิธีการทดสอบและเทคโนโลยีการวัดค่าที่ทันสมัยที่สุด​ 

ซึ่งยางแต่ละประเภทจะถูกทดสอบภายใต้สภาพอากาศและสภาพผิวถนนทุกรูปแบบโดย​ทีมผู้ขับขี่มืออาชีพกว่า 67,000 ครั้งและทดสอบการขับขี่ทั่วโลก 500 รอบ​ เพื่อให้มั่นใจ​ได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่กำลังพัฒนา​อยู่นั้นสมบูรณ์แบบ​ ปลอดภัย​ และน่าเชื่อถือ​มากที่สุด​

พัฒนา​เทคโนโลยี​เพื่อเพิ่มความปลอดภัย​ถึงขีดสุด

แม้จะอยู่ในวงการยางรถยนต์​มานาน​ แต่​ Continental​ ก็ยังคงคิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยี​ยางอย่างต่อเนื่อง​ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์​ที่ทางแบรนด์​ได้ตั้งไว้ในเรื่องความปลอดภั​ย​ โดยมีเทคโนโลยี​ที่น่าสนใจ​ ดังนี้

  • SSR ยางรถยนต์ชนิดสามารถวิ่งได้เมื่อยางรั่ว

SSR เป็นเทคโลยีที่ถูกพัฒนา​ขึ้น​เพื่อ​ยางรถยนต์​ของ​ Continental​ โดยเฉพาะ​ โดยมีการเสริมผนังช่วงด้านข้างของตัวยาง​ ทำให้ขอบยางไม่บดกับถนน​ จึงมีคุณสมบัติที่ช่วยให้รถสามารถ​พยุง​ตัวและขับต่อไป​ได้​ แม้เกิดกรณี​ฉุกเฉิน​เช่น​ ยางแบน​ หรือ​ ยางรั่ว​ 

  • ContiSeal​ ช่วยผนึกรอยรั่วซึมของยาง

ContiSeal​ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบ​และพัฒนาโดย​ Continental​ ในกรณีที่​ยางรั่ว​ หรือได้รับความเสียหายจากวัตถุแปลกปลอม​ เช่น​ ของมีคม​ หรือ​ ตะปู​ ผนึกที่ใช้บุกับด้านในของดอกยางนั้นมีความเหนียวและหนืด​ ช่วยให้รูรั่วยังคงปิดสนิท​ แม้ตัวการที่ทำให้ยากรั่วจะหลุดออกไปแล้วก็ตาม​ จึงทำให้ผู้ขับขี่ยังสามารถขับต่อไปได้อย่างปลอดภัย​ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาจอดเปลี่ยนยางในทันที

ยาง​ 3 รุ่นที่เหมาะกับเมืองไทย เพราะเหมาะกับเมืองไทยทุกรุ่นที่เรามีขาย

เนื่องจากเทคโนโลยี​การผลิตที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง​ ทำให้ยางรถยนต์​ของ​ Continental​ นั้นน่าสนใจอยู่หลายต่อหลายรุ่น​​ แต่วันนี้เราจะยกเอา​ยาง​ 3 รุ่นที่พิจารณา​แล้วว่าเหมาะกับสภาพอากาศ​และพื้นถนนในประเทศไทยเป็นอย่างมาก​ จะมีรุ่นไหน​ และแต่ละรุ่นจะทีข้อดีอย่างไร​ มาดูกัน

-UltraContact UC6

สำหรับ​ยางรุ่นนี้นั้นถูกออกแบบ​โดยคำนึงถึง​ความปลอดภั​ยบนท้องถนน​มากขึ้น​ โดยเฉพาะ​บนถนนเปียก ซึ่งทาง​ Continental​ จึงได้พัฒนา​ Aqua Drainage ที่ออกแบบ​มาเพื่อรีดน้ำออกจากร่องดอกยาง​ เพื่อลดโอกาส​เสี่ยงที่ศูนย์​กลางยางอาจจะเหินน้ำได้

นอกจากนี้​ยังมีเทคโนโลยี​ Diamond​ Edge ที่ออกแบบมาคล้ายรูปทรงเพชร​ ทำให้หน้ายางสัมผัสพื้นผิวถนน​ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​ ช่วยให้การเบรกระยะสั้นทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้งทำได้ดีมากยิ่งขึ้น

UltraContact UC6

-ContiMaxContact MC6 

เนื้อยางรุ่น​นี้​ถูกออกแบบให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น​ สามาร​ถ​แทรกตัวเข้าล็อกกับพื้นผิวถนนได้ดีเยี่ยม​ เพื่อความปลอดภัย​สูงสุด​สำหรับผู้ขับขี่​ รวมถึง​รูปทรงของดอกยางเป็นแบบ​ Asymmetric Rib​ Geometry ป้องกันการบิดตัวเมื่อเข้าโค้งและเปลี่ยนเลนแบบฉับพลัน​ ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจ​ได้ในความปลอดภัยในการตอบสนอง​การเข้าโค้ง

ไม่เพียงโดดเด่น​ในเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น​ แต่ย่างรุ่นนี้ยังมีนวัตกรรม​ Noise Breaker 2.0​ ปุ่มตัดคลื่นเสียง​​ที่เคลื่อนผ่านร่องยาง​ ทำให้รู้สึก​นุ่ม​ เงียบ​ ตลอดเวลาที่อยู่​ใน​ห้อง​โดยสาร​

ContiMaxContact MC6

-ContiSportContact 5​

ContiSportContact 5 เป็นยางรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูง​ มาพร้อมการควบคุมที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับรถสปอร์ต และรถระดับหรู เนื่องจาก​มีคุณสมบัติ​ในการยึดเกาะถนนได้อย่างยอดเยี่ยม และการเข้าโค้งที่เหนือกว่า​ จึงให้ความรู้สึกปลอดภัยแม้ในขณะหักเลี้ยว

น​อกจาก​นี้การผสมผสาน​สูตรยางในรูปแบบ​ใหม่​ยังทำให้​เกิดแรง​ต้านการหมุนต่ำ​ จึงช่วยให้ประหยัด​น้ำมัน​และสามารถ​ขับได้ในระยะทาง​ที่มากกว่า​ด้วย

ContiMaxContact MC6

ที่​ ก.เจริญ​ยาง​ยนต์​และ​ ก.เจริญ​ค็​อก​พิท​ นั้นมียางรถยนต์​จากแบรนด์​ชั้นนำหลากหลายให้เลือก​ ไม่ว่าจะเป็น ยาง Michelin  ยาง Yokohama และ ยาง BRIDGESTONE พร้อมการดูแลด้วยช่างมืออาชีพที่มีอุปกรณ์ครบครัน ​ หรือบริการอื่นๆ​ เพิ่มเติม​ สามารถติดต่อได้ผ่านทุกช่องทางการสื่อสารของเราได้​ตลอด​เวลา

ซึ่ง​สำหรั​บใครที่สนใจยางจากแบรนด์​ Continental​ แต่ไม่รู้จะเลือกยางรุ่นไหนให้เหมาะกับรถของคุณ​ สามารถ​เข้ามาสอบถามและขอคำแนะนำได้ที่ศูนย์​บริการ​ของเราทั้ง​ 2 สาขา

สาขาสุขุมวิท 91 : 02-331-9911

Line: @kc4418

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/rghdgbMLHwgX2tHQA

สาขาอุดมสุข (K.Charoen Cockpit): 02-393-3356

Line: @kcockpit 

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/8biZzcos5fKN26h98

โดยคุณสามารถอ่านรายละเอียดสินค้าและการบริการต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ ร้านยาง ก.เจริญยางยนต์

0 Comments

Leave a Reply


Superior Consulting

We bring to you our 35 years of experience.
Always available. Always on.

© 2009 - 2017 K.Charoenyangyont Co., Ltd. & Mink & Seen Co., Ltd.